บอกยังไง ให้เหิมใจผู้ฟัง ให้เขารักเรา

[Joe524]

1. เริ่มประโยค ด้วยความคุ้นเคย

อาจจะเป็นการไต่ถามส า ร ทุกข์สุกดิบด้วยความประสงค์ดีและก็เอาใจใส่ในคำตอบของเขา อย่าลืมใช้คให้ำสุภาพเรียบร้อย เหมาะสม รวมทั้งนุ่มนวลด้วยนะคะ "เป็นอย่างไรบ้ า งหยุดย า วที่ผ่านมา

ไปเที่ยวไหนมาบ้ า งคะ" การใช้ความคุ้นเคยจะมีผลให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่ อ น คลายและเป็นมิตรด้วยนะคะ อีกเรื่องเป็นอวัจนะภาษาจ้ะ ลักษณะท่าทางการพูดที่ถูกถ่ายทอดออก


โกรธหว่างดวงตาพวกเราหรือการสัมผัสอะไรบางอย่างยกตัวอย่างเช่น การสัมผัสไหล่เพื่อกำลังใจ การจับมือเพื่อปลอบประโลมปะโลม ปรบมือให้เพื่อแรงใจ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณรวมทั้งเค้าเข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น

2. ฝึกฝนพูด คำว่า"ไม่" แล้วชีวิตคุณจะ "ใช่"

ด้วยเหตุว่าคำว่า"ไม่" มันกล่าวให้ดูดีย า ก พูดบอกคำจำกัดความเป็นบวกได้ย า กมาก คำบางคำเป็นคำที่มักนำมาใช้ทำร้ า ย จิตใจคนอื่นๆ แสดงถึงความรู้สึกไม่พึงพอใจในตัวเขาหรืองานของเขา หลายคนใช้คำนี้จนติดจนเป็นนิสัยซึ่ง

ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองเลยล่ะจ้ะ อย า กให้ทดลองเปลี่ยนการใช้มันมองนะคะ เป็นต้นว่า "ทดลองทำอย่างนี้ดูดีไหม" "แบบนี้ก็ดีนะ ถ้าเพิ่มส่วนนี้อีกหน่อยคุณรู้สึกว่าจะเป็นอย่างไรขา" แสดงว่า พวกเราไม่ได้ปฏิเสธความนึกคิดของอีกข้างแต่ลองชี้แนะเพิ่มเสมอเหมือนการเสนอแนะเขา

3. ดูให้ได้ 3 มุม

การพูดเป็นดุจกระบี่ 2 คม ไม่ทิ่มแทงแ ท ง เค้า ก็ย้อนกลับมาแ ท ง ที่ตัวเราเอง "สติ"สิ่งเดียวอาจไม่เพียงพอ คุณจำเป็นต้องฝึกขั้นตอนการการคิดอย่างมีสติสัมปชัญญะแล้วก็วิเคราะห์ไปพร้อมๆกันด้วยค่ะ

ดูว่าธรรมชาติของเค้าเป็นคนเช่นไร เรื่องไหนควรบอก เรื่องไหนไม่ควรบอก แต่ว่าที่สำคัญไปมากกว่านั้น ทุกหนถ้าเกิดจะมีการว่ากล่าว ตัดเตือน ปรับแต่งจุดบกพร่องของงาน ให้ทดลองมองดูให้ได้ 3 มุม


1. มุมของเรา : เรามองว่าอย่างไร ในตำแหน่ง หน้าที่เรา พวกเราควรจะดูแบบไหน ขจัดปัญหาเช่นไร


2. มุมของเค้า : ถ้าหากเราเป็นเค้าพวกเราจะทำอย่างไร ถ้าหากเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดนแบบงี้เหมือนกันเราจะรู้สึกยังไง แล้วเราจะจัดการกับปัญหานั้นแบบไหน

3. มุมของบุคคลที่3 หรือคนอื่นที่มองดู 2 คนนี้อยู่ : เค้าทำอะไรกัน ปัญหาก็คืออะไร เล็ก ใหญ่ขนาดไหน ขนาดที่จะต้องทะเลาะกันเลยอย่างนั้นหรือ ทะเลาะเบาะแว้งด้วยประเด็นนี้เหตุผลมาจากอะไร ฯลฯ

หากคุณมองดูให้ได้ครบทุกมุม คุณจะเห็นทุกด้านของความคิด เข้าใจเค้า รู้เรื่องเรา รู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดมากเพิ่มขึ้น

4. อย่าติเตียนคนใดกัน เฉพาะหน้าผู้อื่น

ไม่มีผู้ใดถูกใจการถูกตำหนิจ้ะ พวกเราก็เช่นกันใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งโดนด่าทอเฉพาะหน้าคนอื่นๆด้วยแล้วล่ะก็ มันช่างเ จ็ บ โกรธแค้นแสนร้ายแรงเสียอย่างมากจริงๆการดุคนใดกันแน่ต่อหน้าต่อตาผู้อื่นมันเป็นการตั้งอกตั้งใจฉีกหน้าเค้าให้พังทลายยับชนิดที่เรียกว่า

ผู้ที่โดนด่านั้นจะจำฝังใจไปกระทั่งวันต า ย เลยทีเดียว และก็ความเชื่อมโยงระหว่างคุณแล้วก็เค้าจะเสียไปในทันที สุดท้ายแล้วไม่มีข้างไหนชนะ ไม่มีผู้ใดได้ประโยชน์จากกระบวนการทำอย่างนี้ค่ะ ฉะนั้นแล้วถ้าเกิดไม่ใช่เรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสาธารณะแนะนำว่าไม่สมควรกระทำอย่างยิ่งค่ะ

5. มีนายช่างฝีมือดู

ชมเมื่อเค้าประพฤติดี ทำงานเจริญ ช่วยเหลือคนอื่นๆ ส่งผลงานที่ดี ทำตัวดี คุณก็ควรจะชมเค้าด้วยใจจริงที่ห่วงใย คำพูด คำจา น้ำเสียงที่ดี เค้าหน้าปลาบปลื้มพลอยยินดีไปกับเค้าด้วย เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีผลต่อความรู้สึกมากนะคะ คนที่ถูกดูเค้าจะราวกับได้รับของขวัญพิเศษจากคุณ ทำให้มีแรงกระตุ้น มีพ ลั ง ที่จะทำสิ่งนั้นให้ดีเยี่ยมๆขึ้นไป

การมีศิลปการชมที่ดีนั้น ไม่มีความสำคัญต้องดูที่ผลงานของเค้าแค่นั้นจ้ะ อย า กให้ลองชมความน่ารักของเค้า ความโอบอ้อมอารี ความใส่ใจที่เค้ามีต่อคุณ ชมเสื้อผ้า


ดูยานพาหนะ ชมกระเป๋าถือเค้า หรือสิ่งรอบๆตัวเค้า เพียงเท่านี้ก็เป็นการสร้างความสบายให้เค้าได้แล้ว รวมทั้งเค้าจะเกิดภูมิใจเกิดความมั่นใจในตัวเอง แล้วเขาจะรักเรา ถึงแม้เคยเป็นศั ต รู กันโกรธไม่มองหน้ากันก็จะหายโกรธพวกเราค่ะ ทดลองดูนะคะ

6. อย่ารั ก ษ า น้ำใจด้วยการพูดอะไรที่มันไม่จริง

บางบุคคลเข้าใจผิดว่าการพูด"รั ก ษ า ความมีน้ำใจ"เป็นการกล่าวในสิ่งที่มันไม่จริงเพื่อเค้ารู้สึกดี และก็บางคราวคนเรา ก็ถูกใจที่จะ "รั ก ษ า ภาพพจน์"(ที่ไม่จริงของตัวเอง)มากกว่ารั ก ษ า น้ำใ

จึงเลือกกล่าวไปในสิ่งที่มันไม่จริงเพราะกลัวว่าถ้าเราพูดเรื่องจริงไป"พวกเราจะดูแย่ และก็บางคราวก็รั ก ษ า ความมีน้ำใจ ด้วย"การไม่บอก" ซึ่งอีกทั้งการพูดอะไรที่มันไม่จริงและทั้งการไม่บอก

มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นราวกับการผลักดันและส่งเสริมความประพฤติปฏิบัติของเค้าแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ตัว แถมยังหลงเหลิงว่าสิ่งที่เราเองทำนั้นถูกก็ดี

"คิดทุกคำก่อนที่จะพูด แต่ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องพูด ทุกคำที่เราคิด" ไม่เพียงพอจ้ะ ต้องเลือกใช้คำที่จะกล่าวให้สมควรด้วย

7. พบคำถามที่ต้อง "ฟั น ธง" หรือ "ตกลงใจ" บางอย่างแล้วเรายังไม่มั่นใจ ตอบอย่างไรให้ดูดี

ถ้าหากควรจะมีการตอบปัญหาที่เป็นคำถามปลายปิด "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ควรจะหรือไม่ควรจะ ดีหรือเปล่าดี คุณคิดอย่างไร จะต้องทำยังไง เจอปริศนาพวกนี้แล้วเราไม่รู้เรื่องไหมมั่นใจในคำตอบ

สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือถ้าเกิดเราไม่ตอบ เราก็ดูแ ย่ ถ้าเกิดพวกเราตอบแล้วตอบไม่ถูก ก็ดูแ ย่ ไม่แพ้กัน ด้วยเหตุดังกล่าวลู่ทางของเราให้พวกเราแถได้แบบแถแล้วดูดี หลักมันอยู่ที่ตรงนี้ค่ะ


⁃ คำตอบของคุณจำเป็นที่จะต้องไม่ไปกล่าวถึงคนไหน ไม่เป็นการว่ากล่าวคนใดกันแน่


⁃ ใช้เหตุส่งผลมารองรับ จะให้น้ำ ห นั ก กับคำตอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอบช้าๆได้จ้ะ ช่างเถิด เบาๆใช้ความคิด ตอบอย่างมีสติสัมปชัญญะ ระบุถึงเหตุผลที่ไปที่มาให้แจ่มกระจ่าง

⁃ คุณสามารถอธิบายได้นะคะในบางเรื่อง ว่าประเด็นนี้"ไม่เกี่ยวกับเราโดยตรง" ด้วยลักษณะงานแล้ว "ดิฉันอย า กช่วยมากมายๆเลยนะ เลยอย า กแนะนำให้ทดลองขอคำแนะนำทาง... จะได้คำตอบที่แน่นอนกว่านะคะ" นี่เป็นการปฏิเสธแบบรั ก ษ า น้ำใจ

⁃ ถามกลับไป ทวนคำถามเพื่อ ตรึกตรองมุมมองของเขา แล้ว"คุณคิดอย่างไรบ้ า งคะ" แม้กระนั้นกรณีนี้พวกเราจะต้องมีการเพิ่มเติมข้อคิดเห็นของเราลงไปบ้ า งนะ เค้าจะได้ทราบสึกได้ว่าเรากำลังพย า ย า มช่วยหาคำตอบอยู่

⁃ หาคำตอบมาให้ภายหลัย คุณสามารถตอบในลักษณะที่ว่า "ฉันรู้แต่เพียงว่า... ส่วนที่เพิ่มอีกจะรีบไปค้นหาคำตอบมาให้นะคะ"

"วิธีพูดอย่างไรให้คู่รักนี้" ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่ า น ทุกท่านนะคะ รวมทั้งขอขอบคุณจากใจที่อ่ า น มันจนกระทั่งบรรทัดนี้ แต่ว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นไปได้เพียงแค่ข้อเสนอสั้นๆที่ถูกเลื่อนหายไปจากฟีตหน้าเ ฟ ส บุ๊ ค ของคุณแค่นั้น ถ้าคุณไม่ทดลองเปิดใจ
เทคนิคการพูด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13493/