ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

โรงพยาบาลรามคำแหง 2 มีความมุ่งมั่นในการให้บริการด้านการตรวจมะเร็งตับร่วมวินิจฉัยอย่างมีคุณภาพ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจาก AACI (Asian Accreditation for Cancer Institutions) ซึ่งเป็นการยืนยันถึงคุณภาพและความปลอดภัยในการให้บริการด้านสุขภาพ

กระบวนการตรวจ

การตรวจมะเร็งตับที่โรงพยาบาลรามคำแหง 2 ประกอบด้วยขั้นตอนที่ทันสมัยและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อให้การวินิจฉัยแม่นยำและรวดเร็ว โดยมีการใช้:

• การตรวจเลือด: เพื่อหาค่าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของตับและมะเร็ง เช่น ค่า AFP (Alpha-fetoprotein) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการตรวจหามะเร็งตับ
• การตรวจภาพ: รวมถึงการตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound) และการสแกน CT (Computed Tomography) ซึ่งช่วยให้แพทย์เห็นโครงสร้างและลักษณะของตับได้ชัดเจน
• การตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy): ในกรณีที่มีความสงสัยเกี่ยวกับความผิดปกติในตับ แพทย์อาจทำการเก็บชิ้นเนื้อเพื่อนำไปวิเคราะห์เพิ่มเติม

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

โรงพยาบาลรามคำแหง 2 มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยาและโรคตับที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมให้คำปรึกษาและการดูแลที่เหมาะสมตามความต้องการของผู้ป่วย โดยเน้นการสร้างแผนการรักษาที่เป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพ

การดูแลหลังการตรวจ

หลังจากการตรวจและวินิจฉัย ทีมแพทย์จะมีการติดตามผลและวางแผนการรักษาต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีที่สุดทั้งในด้านการรักษาและการฟื้นฟู


สรุป

การตรวจมะเร็งตับที่โรงพยาบาลรามคำแหง 2 เป็นกระบวนการที่มีมาตรฐานสูงและมีความปลอดภัย โดยได้รับการรับรองจาก AACI ซึ่งเป็นการรับประกันถึงคุณภาพการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยทุกคน หากคุณหรือคนที่คุณรักมีความเสี่ยงต่อมะเร็งตับ อย่ารอช้า ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณค่ะ

การตรวจมะเร็งตับ (Liver Cancer Screening)

มะเร็งตับเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่พบได้บ่อยในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีประวัติเป็นไวรัสตับอักเสบบีหรือซี ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือผู้ที่มีประวัติครอบครัวที่เคยป่วยเป็นมะเร็งตับ มะเร็งตับในระยะแรกมักไม่มีอาการที่ชัดเจน ทำให้การตรวจมะเร็งตับพบในระยะแรก ๆ ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาได้ดีขึ้น

### วิธีการตรวจมะเร็งตับ
1. **การตรวจเลือด (AFP - Alpha-Fetoprotein)**: เป็นการตรวจวัดระดับโปรตีน AFP ที่อาจสูงขึ้นเมื่อเกิดมะเร็งตับ แม้ว่าค่าที่สูงขึ้นอาจไม่จำเป็นต้องเป็นมะเร็งตับเสมอไป แต่การตรวจนี้จะช่วยให้แพทย์ระวังและติดตามอาการได้
2. **อัลตราซาวด์ช่องท้อง (Ultrasound)**: วิธีการที่ใช้คลื่นเสียงในการสร้างภาพของตับ ช่วยให้แพทย์ตรวจดูความผิดปกติในเนื้อตับ เช่น ก้อนเนื้อหรือแผลที่อาจเป็นมะเร็ง
3. **การตรวจภาพตับด้วย CT หรือ MRI**: สำหรับผู้ที่พบความผิดปกติจากการตรวจอัลตราซาวด์ แพทย์อาจแนะนำให้ทำการตรวจด้วย CT หรือ MRI เพื่อให้เห็นภาพรายละเอียดของตับและตำแหน่งของก้อนเนื้อในขั้นที่ชัดเจนมากขึ้น
4. **การตรวจตับด้วยไฟโบรสแกน (FibroScan)**: การตรวจวัดความยืดหยุ่นของเนื้อตับด้วยวิธีการไฟโบรสแกนสามารถใช้ประเมินระดับความเสียหายของตับและช่วยในการตรวจหาความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งตับได้

### ผู้ที่ควรเข้ารับการตรวจมะเร็งตับ
- ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี
- ผู้ที่มีภาวะตับแข็ง
- ผู้ที่มีประวัติการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวที่เคยเป็นมะเร็งตับ
- ผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับจากโรคเบาหวานหรืออ้วน

การตรวจมะเร็งตับเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและวินิจฉัยโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ หากตรวจพบเร็ว การรักษามีโอกาสได้ผลดีและเพิ่มโอกาสในการหายได้มากขึ้น โรงพยาบาลรามคำแหง 2 พร้อมให้บริการตรวจและดูแลการรักษามะเร็งตับด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้ท่านมั่นใจในสุขภาพตับและการรักษาที่ครบวงจร

โรคมือเท้าปาก (Hand, Foot, and Mouth Disease)

โรคมือเท้าปากเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เกิดจากไวรัสในกลุ่ม Enterovirus เช่น Coxsackievirus และ Enterovirus 71 โรคนี้แพร่กระจายง่ายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับน้ำลาย เสมหะ หรืออุจจาระของผู้ป่วย และยังสามารถติดต่อผ่านของเล่นหรือพื้นผิวต่าง ๆ ได้

อาการของโรคมือเท้าปาก

• ไข้สูง: อาการแรกของโรคมักเป็นไข้สูงที่เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
• เจ็บคอ: เกิดอาการเจ็บคอ ร่วมกับอาการเบื่ออาหาร และอาจร้องไห้งอแง
• ผื่นและแผล: มักพบผื่นแดงหรือตุ่มน้ำขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และมีแผลในปากที่ทำให้เจ็บปวด ทำให้เด็กบางคนไม่อยากกินอาหารและน้ำ ซึ่งอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้
• อาการทั่วไปอื่น ๆ: อาจมีผื่นหรือแผลที่บริเวณก้นหรือข้อพับ อาการดังกล่าวจะค่อย ๆ ลดลงและหายไปเองภายใน 7-10 วัน

วิธีป้องกันโรคมือเท้าปาก

• การล้างมือ: ล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรือเปลี่ยนผ้าอ้อม
• หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน: เช่น จาน ช้อน แก้วน้ำ และของเล่น
• ทำความสะอาด: ทำความสะอาดของเล่นและพื้นผิวที่เด็กสัมผัสบ่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ
• แยกเด็กที่ป่วย: ควรแยกเด็กที่ติดเชื้อออกจากกลุ่มเด็กอื่น ๆ เพื่อลดการแพร่กระจาย

การรักษาโรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปากสามารถหายเองได้ในเวลาประมาณ 7-10 วัน แต่อาจต้องรักษาตามอาการ เช่น

• ยาลดไข้และยาแก้ปวด: เพื่อลดอาการไข้และบรรเทาอาการเจ็บปวดจากแผลในปาก
• น้ำเกลือแร่: หากเด็กมีอาการเบื่ออาหารและดื่มน้ำได้น้อย ควรให้ดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
• การพักผ่อน: ให้เด็กได้พักผ่อนอย่างเพียงพอและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนัก

หากบุตรหลานของท่านมีอาการรุนแรง หรือไม่สบายใจเกี่ยวกับอาการของเด็ก ทางโรงพยาบาลรามคำแหงมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจรักษาและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคมือเท้าปาก พร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ในการดูแลลูกน้อยของท่าน