1 วัน ของบุคลากรที่ทำงานอย่างเราๆตับทำหน้าที่อะไรบ้าง ?

[dsmol19]

ชีวิตพนักงานออฟฟิศ มีผลต่อตับ เป็นปริศนาที่ดูเหมือนจะตอบยากเนื่องจากแม้ ตับมีปัญหา ตับก็จะไม่แสดงออกทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่เจ็บเมื่อไรก็ส่งสัญญาณเตือนทันที แต่ว่าสำหรับตับแล้วถ้าได้รับการประทุษร้ายตับก็จะสามารถปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมตนเองแต่ว่าก็บางทีอาจจะไม่โชคดีเสมอพร้อมถ้าหากตับได้รับการทำลายอย่างหนักและก็ตลอดก็ส่งผลให้โรคตับแข็งหรือเป็น มะเร็งตับ ได้



แล้วใน ชีวิตพนักงานสำนักงาน 1 วันอย่างเราๆนั้นสร้างภาระหน้าที่ให้ตับได้มากขนาดไหนมาดูกัน

ข้าวเช้า มีผลต่อตับ 

มื้อเช้าตรู่ที่รีบของหนุ่มสาวที่ทำงานโดยมากกับการดื่มกาแฟเพียงแต่ 1 แก้วหรือจนกระทั่งมิได้กินอะไรเลยทำให้ร่างกายมิได้รับสารอาหารที่จำเป็น ซึ่งแม้นับเวลาย้อนไปมื้อล่าสุดที่ร่างกายได้รับไม่ต่ำลงยิ่งกว่า 12 ชั่วโมง แสดงว่าตับคนที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานรวมทั้งสารอาหารไปยังส่วนต่างๆในร่างกายนั้นจำเป็นต้องดึงไกลโคเจนที่เก็บสะสมไว้มากลายเป็นพลังงานในเวลาเช้าและก็ร่างกายยังต้องชดเชยคาร์โบไฮเดรตที่ใช้สำหรับเพื่อการกลายเป็นพลังอย่างเร็วจึงจะต้องรับประทานในมื้อต่อไปมากยิ่งขึ้นอีกด้วยซ้ำซึ่งแปลงเป็นการเพิ่มภาระให้ตับในการทำงานมากขึ้น

มลภาวะ สารพิษ ส่งผลต่อตับ

ช่วงเช้ายังจะต้องพบเจอมลภาวะบนท้องถนนในแต่ละวันด้วยชีวิตที่รีบของคนกรุงในขณะนี้ที่ต้องเจอกับมลพิษต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันที่มีพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ พิษกลุ่มนี้ เมื่อได้รับการสะสมเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ผลการวิเคาะห์จากองค์กรอนามัยโลกบอกว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของมนุษย์นั้น ล้วนแต่มีสาเหตุพื้นฐานเกี่ยวเนื่องจากการสัมผัสกับมลภาวะที่สะสมเป็นระยะเวลานานทั้งสิ้นส่งผลต่อในร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งตับที่เป็นศูนย์กลางและกรองพิษของร่างกาย

Fast Food ส่งผลต่อตับ

พอมื้อเที่ยงต่างคนต่างรีบร้อนเนื่องจากว่าส่วนใหญ่พนักงานสำนักงานจะต้องรีบหามื้อกลางวันในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งมื้ออาหารที่เหมาะกับเดี๋ยวนี้ส่วนมากก็จะเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้ในทันทีแม้กระนั้นอาจมีผลร้ายในระยะยาวได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นตับ เนื่องจากว่าโดยมากอาหารจานด่วนนั้น ชอบมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน และก็โซเดียมสูงเกินความอยากได้ของร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งถ้าหากมีไขมันพอกมากมายๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากเข้า ส่งผลเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับ ทำให้เกิดภาวการณ์ตับอักเสบ โรคตับแข็งและก็ โรคมะเร็งตับ ในที่สุด

ความเครียด มีผลต่อตับ

ตอนบ่ายมีเรื่องมีราวสะสมให้เกิดความตึงเครียดอีกทั้งเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกส่งผลให้ กระบวนการทำร้ายตับจากความตึงเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนและก็ฮอร์โมนในกลุ่มความเคร่งเครียด ยกตัวอย่างเช่น คอร์ติซอล ซึ่งส่งผลต่อการกระตุ้นเนื้อเยื่อของเซลล์ต่างๆในร่างกายจนถึงทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับแล้วก็ทำให้ความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานของภูมิคุ้มกันลดต่ำลงส่งผลให้เกิดความย่ำแย่ต่อตับได้ ให้โอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาปองร้ายได้มากขึ้น นี่คือต้นเหตุว่าเพราะอะไรพวกเราถึงล้มป่วยจากความเครียดได้

แอลกอฮอล์ ยาสูบ ส่งผลต่อตับ

รวมทั้งก่อนกลับบ้านก็มีการคบหาสมาคม ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ สนทนากับเพื่อนพ้องที่ทำงานอีกทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตั  แต่หารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง เพราะเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์และก็การสูบบุหรี่ ทั้งยังพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์และการสูดควันของบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระปะปนรวมถึง สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนทำให้เซลล์ตับเกิดการความเสื่อมโทรม แล้วก็แอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ สูงถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม จึงไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีภาวการณ์อ้วนอ้วน!!!

นอนน้อย มีผลต่อตับ

รวมทั้งสุดท้ายกว่าจะได้นอนก็ยังนอนมืดค่ำ พักผ่อนน้อย โดยมากแล้วหนุ่มสาวออฟฟิตทั้งหลายก็ยังไม่ได้นอนส่งผลให้กระบวนการทำงานกำจัดสารพิษในตับดำเนินงานได้ไม่เต็มกำลังมีผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาทั้งตับอักเสบได้อย่างง่ายๆ ซึ่งตามทฤษฎีแล้วขณะ ห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง เป็นเวลาที่จะเกิดขั้นตอนกำจัดพิษในตับ ซึ่งควรจะต้องอยู่ในช่วงการนอนหลับสนิท

จากการกระทำเพียงแต่ หนึ่งวันเราก็สร้างภาระหน้าที่ให้ตับเรียกว่าทุกช่วงเวลาเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระที่เราหลบหลีกมิได้หรืออุตสาหะควบคุมและทำเป็นยาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวเราจึงต้องที่จะต้องหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายตับเราให้มีร่างกายที่แข็งแรง ก่อนที่จะไม่เหลือตับให้ดูแล