• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

🛒เจาะสำรวจดิน👉 สิ่งจำเป็น 📢แต่คนมองข้าม เหตุผลที่ต้องเจาะสำรวจดิน🦖

Started by Joe524, July 27, 2024, 01:57:08 AM

Previous topic - Next topic

Joe524

🥇⚡🎯โดยปกติแล้วเมื่อท่านทำการก่อสร้างบ้าน อาคารต่าง ๆ✅ ถ้าท่านไม่ใช่วิศวกรส่วนใหญ่ก็จะทำตามแนวทางที่ผู้รับเหมาแนะนำ🥇 แต่ผู้รับเหมาบางเจ้า⚡ต้องการลดค่าใช้จ่าย🛒 (ต้องขอย้ำว่าไม่ใช่ทุกรายนะครับ🌏) ก็จะละเว้นการทดสอบบางอย่างที่เห็นว่าไม่จำเป็น👉 ซึ่งสิ่งแรก ๆ ที่มักถูกตัดออกคือการเจาะสำรวจดิน✨ ในบทความนี้จะอธิบายความสำคัญของการเจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้าง🥇 ว่าไม่ควรมองข้ามและมีประโยชน์อย่างไร📢



📌🦖🎯✨ความสำคัญของการเจาะสำรวจดิน📌🌏⚡✨⚡

1. เพื่อทราบชนิดและประเภทของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง🌏 เพื่อประเมินลักษณะเชิงกล🦖 เพื่อเลือกฐานรากที่เหมาะสม✨ หากดินมีความแข็งแรงเพียงพอ อาจเลือกใช้ฐานแผ่⚡
2. เพื่อทราบความลึกของชั้นดินแข็ง🥇 ว่าอยู่ลึกลงไปเท่าไร เพื่อการคำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม🌏 และคาดคะเนความยาวเสาเข็มที่ต้องใช้ได้🦖
3. การลดข้อผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม📢 หากพบชั้นดินแข็งที่ไม่หนาในความลึกที่น้อย🎯 อาจทำให้หยุดตอกเสาเข็มเพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็ง🌏 แต่จริง ๆ สามารถตอกทะลุลงไปได้หากเข่นลงไปอีกซักพัก🥇
4. หากดินในบริเวณสำรวจมีความผันผวนสูง🛒 วิศวกรอาจสั่งให้เจาะสำรวจหลายหลุมเพื่อเปรียบเทียบ🥇 อาจต้องออกแบบฐานรากหลายชนิดเพื่อก่อสร้างอาคารนั้น ๆ✨

🌏⚡✨📌ประเภทของการเจาะสำรวจดินที่นิยมใช้⚡⚡✨🥇🦖

1. การใช้เครื่องเจาะ Motorized Drilling Rig🌏
เครื่องเจาะที่เคลื่อนย้ายสะดวก🛒 อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของทีมเจาะสำรวจดิน🎯 ว่ากันด้วยเรื่องของความสะดวก🎯 และรวดเร็วในการติดตั้ง🥇 ทำให้งานเจาะสำรวจดินเสร็จเร็วขึ้น ในที่นี้ขอกล่าวถึง การเจาะแบบฉีดล้าง (Wash Boring)🥇 ก็จะเป็นในลักษณะของการใช้เครื่องสูบน้ำช่วยเจาะด้วยหัวกระทุ้ง (Chopping Bit)🦖 ต่อจากก้านเจาะ🛒 ปลายบนต่อกับหัวหมุนน้ำ📌 ซึ่งจะต่อไปยังเครื่องสูบน้ำขณะทำการกระทุ้งดินด้วยเครื่องกว้าน✨ จะทำการฉีดน้ำผ่านรูก้านเจาะ👉 น้ำที่ฉีดจะไหลวนขึ้นมาพร้อมกับเศษดิน ซึ่งจะมาตกในบ่อน้ำวน จนได้ความลึกที่ต้องการเก็บตัวอย่าง
การเจาะตลอดความลึกของหลุมเจาะ ในดินเหนียวอ่อน🎯 หลุมเจาะจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วและลดลงเหลือ 3 นิ้ว ในชั้นดินแข็ง🦖 ระหว่างดำเนินการเจาะสำรวจดินก็ต้องมีการฝัง Casing👉 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้วลงไปจนถึงชั้นดินแข็ง🥇 เพื่อป้องกันการพังทลายของหลุม👉 และใช้ สารละลายเบนโทไนต์🦖 ช่วยกันดินพังในชั้นทราย🎯 ทำการเจาะจนถึงชั้นดินแข็งที่มีค่า SPT-N มากกว่า 50👉

2.การใช้เครื่องเจาะแบบ Rotary Drilling🌏
สามารถใช้เจาะดินได้ทุกประเภท📌 เป็นลักษณะของเครื่องมือเจาะที่มีประสิทธิภาพสูง🥇 ด้วยระบบไฮดรอลิก✅ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนแรงงานคน🥇 สามารถเจาะได้ลึกกว่า 40 เมตร🦖 โดยใช้เครื่องยนต์ Rotary Drilling Rig🌏 ที่ส่งกำลังปั่นหัวเจาะลงไปลึกในระดับความเร็วที่ต้องการ⚡ ดินจะถูกนำขึ้นมาตาม flight auger✅
วิธีนี้เครื่องยนต์ใช้กำลังบิดสูง🎯 ดังนั้นจึงมักเจาะช่วงสั้น ๆ เช่น 1.5 เมตร👉 แล้วยกหัวเจาะขึ้นนำดินออก🌏 แล้วเจาะต่อไปอีก 1.5 เมตร📢 จึงสามารถตรวจลักษณะชั้นดินได้ตลอดความลึก👉 การใช้หัวเจาะผนวกกับการเจาะสำรวจดินแบบฉีดล้าง👉 หรือการเจาะด้วยความเร็วสูง🦖 ทำให้ตัดดินขาดออก พร้อมทั้งปล่อยน้ำ✨ โดยใช้แรงดันน้ำจากปั๊มน้ำแรงดันสูง🌏 เพื่อพาดินตัดขาดแล้วกลับขึ้นมาที่ผิวดิน🦖 เศษดินหรือหินจะถูกส่งขึ้นมาด้วยน้ำจากก้นหลุมเจาะด้วยหัวฉีดที่อยู่บริเวณหัวเจาะ🦖 ในดินแข็งหลุมจะไม่พังทลาย🦖

แต่ในดินแบบ soft clay หรือ sand✨ ต้องสวมท่อเหล็กเพื่อป้องกันดินพังทลาย✨ หรือใช้ drilling mud (น้ำผสมสาร Bentonite)📌 ผสมลงในน้ำที่ฉีดลงไปในหลุมเจาะ เพื่อป้องกันการพังทลายของหลุมเจาะ📌 นอกจากจะทำให้ผนังและหลุมเจาะไม่พัง ยังช่วยพาเศษวัสดุขึ้นมาด้วย🛒 เป็นเหตุให้หลุมเจาะสะอาด ในกรณีพบหินแข็งต้องใช้หัวเจาะเพชรเพื่อตัดชั้นหินและเก็บตัวอย่างหิน🌏 จึงเรียกว่า การเจาะหิน (Rock Coring)🥇