[Chanapot]

แรงกดดัน ส่วนใหญ่แล้วบางครั้งอาจจะไม่ได้มาจากคนอื่น แต่มันมักจะเกิดขึ้นเพราะว่าตัวคุณเอง ด้วยหน้าที่รับผิดชอบ หน้าที่ของสังคมต่างๆทำให้คุณจำเป็นต้องหนักใจและก็กลัวว่าจะปฏิบัติหน้าที่ออกมาได้ไม่ดีหรือไม่เสร็จ

ควรเป็นลูกที่ดีของแม่ เป็นพี่สาวที่รอดูแลน้องๆเป็นภรรย าที่สวย แล้วก็เป็นหัวหน้าทีมในที่ทำงาน เหตุจำเป็นทุกอย่ างทั้งเรื่องเวลา เงิน และก็ความรับผิดชอบที่ต้องมีมากขึ้นวันแล้ววันเล่า อาจจะเป็นผลให้คุณกดดันตัวเองจนถึงไม่ทราบเ นื้ อ รู้สึกตัว! แต่พวกเรามีแนวทางดีๆมาให้ท่านได้ทดลองทำกัน เพื่อให้คุณต่อกรกับมันและก็ก้าวไปข้างหน้าได้อย่ างมั่นหัวใจ

1.รู้สึกตัวเองเมื่อรู้สึกบีบคั้น

ทำงานมากๆแล้วรู้สึกใจไม่ดี หายใจเร็ว มึนหัว หัวร้อน และระเบิดลง ตู้ม! หลายท่านชอบรู้สึกกดดันโดยที่ไม่รู้ตัว แต่ต้องรู้ไว้ว่าถ้าคุณเกิดอาการพวกนี้ขึ้นเมื่อใด

คุณก็ตกอยู่ในภาวการณ์กดดันซะแล้วล่ะ แถมถ้าหากไม่รีบปรับปรุง บางครั้งก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียกับตัวคุณ ได้แก่ ป่ ว ย บ่อยขึ้น ป ว ดปวดเมื่อย ท้องผูก ปฏิบัติงานได้ไม่เต็มกำลัง กินมากหรือไม่เพียงพอ อารมณ์ทางเพศลดลดลง

2.รู้ที่มาของความกดดัน

เมื่อรู้แล้วว่าตนเองรู้สึกกดดัน ถัดมาคือจำเป็นต้องระบุให้ได้ว่าที่มาของความกดดันนี้เป็นยังไง เนื่องจากเมื่อตอนนี้รู้แล้วพวกเราอาจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งพวกนี้ให้กลายเป็นแง่บวกได้

สาเหตุบางทีอาจจะเป็นงานของคุณที่เพิ่งจะส่งหัวหน้าไปแต่กลับโดนแก้มาเป็นการใหญ่ หรืออาจจะมีการเกิดจากตัวคุณเองที่ปรารถนาเป็นผู้ที่เพอร์เฟ็ค ไม่ยินยอมให้แม้แต่เรื่องกล้วยๆๆน้อยๆผิดพลาด

3.หาวิธีที่แก้ไขในสิ่งที่คุณควบคุมได้

คุณจะต้องแยกให้ออกว่าปัญหาไหน "สามารถปรับปรุงแก้ไขได้" แล้วก็ปัญหาไหน "ไม่สามาถปรับปรุงได้" รวมทั้งให้เริ่มลิสต์ปัญหาที่ตัวคุณสามารถคลี่คลายได้และก็จัดการกับมัน

ด้วยการสร้างตัวเลือกที่ใช้เพื่อสำหรับในการขจัดปัญหาแต่ละอย่ าง คิดแผน อย่ างถ้วนถี่รวมทั้งประเมินตัวเองว่าคุณพึงพอใจกับมันหรือเปล่า ถ้าไม่ชอบใจ ก็กลับไปที่ตัวเลือกแล้วก็วางแผนให้ดีอีกรอบ

4.จัดอันดับจุดสำคัญของงาน

ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยถูกใจรู้สึกว่า ยิ่งดำเนินงานให้ได้มากเท่าใดก็ยิ่งดี แม้กระนั้นนั่นก็จะยิ่งทำให้พวกเรารู้สึกกดดันได้อย่างไม่ยากเย็นแนวทางการจัดการกับตัวคุณเองง่ายๆก็คือจำเป็นต้องเรียงลำดับจุดสำคัญ

ของงานหรือกิจกรรมต่างๆว่าควรทำอะไรเสร็จหลังหรือก่อน และก็ย่อยออกมาเป็นขั้นตอนเล็กๆนอกเหนือจากที่จะช่วยทำให้ปรับเป็นระบบกฎระเบียบมากยิ่งขึ้นแล้วหลังจากนั้นก็ยังช่วยทำให้พวกเราไม่ทำงานหนักเกินไปอีกด้วยล่ะ

5.ฝึกมอบหมายงานให้บุคคลอื่น

ผู้ที่บีบคั้นได้ง่ายชอบเป็นคนที่ชอบความ perfect และก็จะเอางานทุกอย่ างมากองไว้บนหัวตนเอง พย าย ามควบคุมทุกอย่ าง ลองมอบงานเล็กๆในตารางงานของคุณให้คนที่พร้อม

โดยบอกเนื้อหาดังที่คุณอยากได้อย่ างชัดเจน การมอบหมายงานให้ผู้อื่น ทำให้คุณสามารถดำเนินงานได้อย่ างดี แม้จะอยู่ในภาวะที่มีความเ ค รี ย ด สูง โดยไม่เสียมาตรฐานของตัวเองด้วย

6.ทดลองบอกว่า "ไม่" ดูบ้ า ง

ชีวิตบางบุคคลขึ้นกับความเกรงใจคนอื่นมากจนเกินความจำเป็นจนตัวเองก็เกือบจะไม่ไหวแล้ว ไม่ยอมรับคนใดกันแน่ไม่เป็นจนกระทั่งเคยตัวทำให้ตัวเองกำเนิดแรงกดดันขึ้นโดยไม่ทันได้รู้สึกตัว พวกเราก็เลยอย ากให้คุณลองไม่ยอมรับคนอื่นมองบ้ า ง คุณอาจจะมีความคิดว่าการพูดคำว่า "ไม่" จะเป็นการตัดช่องทางต่างๆหรืออนาคตออกมาจากชีวิตคุณ แต่ในความเป็นจริงแล้ว

การปฎิเสธจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการจัดลำดับความสำคัญของจังหวะ เพื่อให้คุณได้ใช้เวลาแล้วก็ความสามารถของคุณไปอย่ างมีสมรรถนะ กรรมวิธีการเป็นให้ลองถามตนเองว่า


"ฉันอย ากทำมันจริงๆหรือไม่ มันสำคัญกับเป้าหมายของฉันไหม" ฉันกล่าวคำว่า "ได้" เนื่องจากว่าทราบสึดผิดหรือเป็นเนื่องจากหน้าที่หรือเปล่า? ลองตอบปัญหาของตนเองและก็ทดลองพูดว่า "ไม่" มองบ้ า ง

7.หยุดวิจารณ์รวมทั้งยอกย้อนตัวเอง

การพูดแ ย่ๆกับตนเอง บางทีอาจนำไปสู่ความขุ่นเคือง และก็แปลงเป็นความสิ้นหวังท้ายที่สุด หยุดเสียงในหัวนั้นไว้ รวมทั้งเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพ ลั ง บวกดีมากยิ่งกว่า โดยให้จดว่าแต่ล่ะวัน

คุณวิจารณ์ตนเองว่าอะไรบ้ า ง เช่น ฉันมันเฮงซวยที่ทำหัวข้อนี้ไม่ได้ แล้วทำไมคุณถึงคิดแบบงี้ แล้ว ทดลองรู้สึกว่าถ้าเกิดเพื่อนมาขอความเห็นจากคุณในแบบเดียวกัน คุณจะแนะนำเขาอย่ างไร คุณจะแก้ในสิ่งที่เขาคิดไหม หรือจะบอกข้อดีในตัวเขาให้เขาได้ทราบตัว ลองฝึกฝนแบบงี้กับตนเองก็จะช่วยได้อย่ างมาก
คนเก่ง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13445/