[dsmol19]

โครงสร้างรองรับลึก (Deep Foundation) เป็นโครงสร้างสำคัญในงานวิศวกรรมที่ช่วยเสริมความมั่นคงของโครงสร้างในพื้นที่ที่ชั้นดินข้างบนไม่แข็งแรงพอเพียงสำหรับรองรับน้ำหนักทั้งปวง โครงสร้างรองรับลึกมีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละจำพวกมีคุณสมบัติ จุดเด่น รวมทั้งความจำกัดเฉพาะตัว การเลือกโครงสร้างรองรับลึกที่เหมาะสมกับโครงการก่อสร้างจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยรวมทั้งคุณภาพของโครงสร้าง เนื้อหานี้จะพาคุณทำความรู้จักกับจำพวกของฐานรากลึก พร้อมกระบวนการเลือกใช้งานในแผนการก่อสร้างที่แตกต่าง

✨✨🛒ฐานรากลึกเป็นอย่างไร?

รากฐานลึกเป็นส่วนขององค์ประกอบที่ถ่ายโอนน้ำหนักของตึกหรือสิ่งปลูกสร้างลงไปยังชั้นดินหรือชั้นหินที่มีความแข็งแรงพอเพียง โดยอยู่ลึกกว่าฐานรากตื้น (Shallow Foundation) ฐานรากลึกเหมาะกับแผนการที่ต้องการรองรับน้ำหนักมาก หรือในพื้นที่ที่ชั้นดินด้านบนอ่อนตัว ได้แก่ ดินเลน ดินปนทรายหลวม หรือพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ

✅📢🎯จำพวกของโครงสร้างรองรับลึก

รากฐานลึกสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายหมวด ขึ้นอยู่กับลักษณะของการก่อสร้างและการถ่ายโอนน้ำหนัก โดยชนิดที่พบมากในงานวิศวกรรม ดังเช่น:

-------------------------------------------------------------
ให้บริการ รับเจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท ทดสอบดิน บริการ Soil Boring Test วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรม ทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม (Seismic Integrity Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 Website:  เจาะสํารวจดิน
👉 Map: เส้นทาง
-------------------------------------------------------------

1. เสาเข็ม (Pile Foundation)
เสาเข็มเป็นฐานรากลึกที่ใช้กันอย่างมากมาย โดยมีลักษณะเป็นเสาที่ตอกหรือเจาะลงไปในดินเพื่อถ่ายโอนน้ำหนักของโครงสร้างลงสู่ชั้นดินที่แข็งแรง เสาเข็มแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก:

เสาเข็มตอก (Driven Piles):
จัดตั้งโดยการตอกเสาเข็มลงไปในดิน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่อยากความรวดเร็วและก็ลดทุน แต่ว่าการตอกเสาเข็มอาจจะก่อให้กำเนิดแรงสั่นต่ออาคารใกล้เคียง
เสาเข็มเจาะ (Bored Piles):
จัดตั้งโดยการขุดหรือเจาะหลุมแล้วใส่คอนกรีตเสริมเหล็กลงไป เหมาะสำหรับพื้นที่ที่อยากได้ลดผลพวงจากแรงสั่นสะเทือน ยกตัวอย่างเช่น ใกล้กับอาคารที่มีโครงสร้างหวั่นไหว

2. ฐานเข็มเจาะ (Drilled Shaft Foundation)
ฐานเข็มเจาะ หรือที่เรียกว่า Caisson เป็นฐานรากลึกที่จัดตั้งโดยการเจาะหลุมขนาดใหญ่ลงไปในดินหรือหิน แล้วใส่คอนกรีตลงไปเพื่อสร้างรากฐาน แนวทางแบบนี้เหมาะกับโครงการที่จำต้องรองรับน้ำหนักมาก ได้แก่ สะพาน หรืออาคารสูง โดยมีข้อดีคือความแข็งแรงและก็ความรู้ความเข้าใจสำหรับในการรับน้ำหนักที่สูง

3. รากฐานแบบเสาเข็มรวม (Pile Group Foundation)
ในบางโครงการอาจต้องใช้เสาเข็มหลายต้นรวมกันเป็นกลุ่ม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงสำหรับเพื่อการรับน้ำหนัก โดยรากฐานอย่างงี้มักใช้ในส่วนประกอบที่มีน้ำหนักกระจายตัว ยกตัวอย่างเช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือโครงสร้างสะพาน

4. รากฐานลึกชนิดฝัง (Embedded Foundation)
โครงสร้างรองรับจำพวกนี้ถูกฝังไว้ใต้ดินและเชื่อมโยงกับส่วนประกอบด้านบน เหมาะสำหรับโครงงานก่อสร้างในพื้นที่ที่อยากได้ลดผลกระทบจากการเคลื่อนตัวของดิน ตัวอย่างเช่น อาคารที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ลาดชัน

5. โครงสร้างรองรับลึกพิเศษ (Specialized Deep Foundations)
ในบางคราวที่โครงสร้างมีความสลับซับซ้อน ดังเช่นว่า ในพื้นที่แผ่นดินไหวหรือในสมุทร ฐานรากลึกพิเศษ เป็นต้นว่า เสาเข็มแบบคอนกรีตอัดแรงหรือรากฐานแบบใต้ทะเล จะถูกประยุกต์ใช้งาน

📌📢🥇การเลือกรากฐานลึกให้เหมาะสม

การเลือกรากฐานลึกที่เหมาะสมกับโครงงานก่อสร้างขึ้นกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น:

1. สภาพดินในพื้นที่
การสำรวจชั้นดินในพื้นที่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยทำให้ทราบถึงคุณลักษณะของดิน ได้แก่ ความแข็งแรง ความลึกของชั้นดินแข็ง รวมทั้งระดับน้ำใต้ดิน ซึ่งจะเป็นตัวระบุจำพวกฐานรากที่สมควร

2. ลักษณะของส่วนประกอบ
น้ำหนักแล้วก็รูปแบบของส่วนประกอบ ดังเช่นว่า อาคารสูง สะพาน หรือองค์ประกอบใต้น้ำ จะส่งผลต่อการเลือกรากฐานลึก ถ้าหากองค์ประกอบมีน้ำหนักมากมาย จึงควรใช้ฐานรากที่สามารถรองรับน้ำหนักเจริญ ได้แก่ ฐานเข็มเจาะหรือโครงสร้างรองรับแบบเสาเข็มรวม

3. ข้อจำกัดทางกายภาพ
ในพื้นที่ที่มีความจำกัด อาทิเช่น พื้นที่แคบ หรือใกล้กับตึกอื่น ฐานรากแบบเสาเข็มเจาะจะสมควรกว่า ด้วยเหตุว่าลดผลพวงจากแรงสั่น

4. สภาพแวดล้อมรวมทั้งปัจจัยภายนอก
สิ่งแวดล้อม เป็นต้นว่า การกัดเซาะของน้ำ หรือการเกิดแผ่นดินไหว เป็นสาเหตุที่จะต้องพิเคราะห์ในการดีไซน์และก็เลือกฐานรากลึก

📌✨🎯จุดเด่นและข้อกำหนดของฐานรากลึกจำพวกต่างๆ

ข้อดีของโครงสร้างรองรับลึก
-รองรับน้ำหนักได้มาก
-ลดปัญหาเกี่ยวกับการยุบของโครงสร้าง
-ใช้งานได้ในภาวะดินหลากหลายประเภท
-เพิ่มความมั่นคงให้กับองค์ประกอบในพื้นที่เสี่ยง

ข้อกำหนดของรากฐานลึก
-กระบวนการติดตั้งซับซ้อน
-ใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง
-อยากการสำรวจและดีไซน์ที่ถูกต้องแม่นยำ

⚡📢✨แบบอย่างการใช้งานรากฐานลึกในโครงการจริง

อาคารสูงในเขตเมือง:
อาคารสูงในเมืองใหญ่อยากรากฐานลึกเพื่อรองรับน้ำหนักและก็ลดผลกระทบจากแรงสะเทือน ฐานรากแบบเสาเข็มเจาะจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยม
สะพานผ่านแม่น้ำ:
สะพานอยากได้โครงสร้างรองรับลึกที่สามารถรองรับแรงกดดันจากน้ำแล้วก็การเขย่ากระเทือน ฐานเข็มเจาะขนาดใหญ่ก็เลยถูกเลือกใช้
โครงสร้างในทะเล:
โครงการก่อสร้างในทะเล ยกตัวอย่างเช่น แท่นขุดน้ำมัน ใช้รากฐานแบบพิเศษที่ดีไซน์มาเพื่อต้านแรงจากคลื่นรวมทั้งสายน้ำ

✅✅🛒บทสรุป

รากฐานลึก มีหลากหลายประเภทที่สามารถประยุกต์งานให้เหมาะสมกับรูปแบบของแผนการก่อสร้างและก็ภาวะดินในพื้นที่ การเลือกรากฐานที่เหมาะสมไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้าง แต่ว่ายังช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้สอยในระยะยาว การไตร่ตรองเหตุต่างๆดังเช่นว่า ภาวะดิน น้ำหนักขององค์ประกอบ และก็ข้อกำหนดทางกายภาพ จึงเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับเพื่อการวางแบบฐานรากลึก

รากฐานลึกที่เลือกใช้อย่างเหมาะสมจะช่วยให้องค์ประกอบมีความแข็งแรง คงทน รวมทั้งสามารถรองรับการใช้งานในระยะยาวได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นแผนการในพื้นที่ดินอ่อน พื้นที่น้ำท่วม หรือแม้กระทั้งโครงการในทะเล ฐานรากลึกจะยังคงเป็นหัวใจสำคัญของงานวิศวกรรมในทุกยุคสมัย
Tags : การทดสอบความหนาแน่นในสนาม

[Beer625]

สุดยอดมากค่ะ

[Jenny937]

ขอบคุณค่ะ

[Prichas]

เข้าใจแล้วค่ะ